หมอนรองกระดูกทรุด vs หมอนรองกระดูกปลิ้น vs หมอนรองกระดูกเสื่อม
เข้าใจให้ชัดก่อนตัดสินใจรักษา
อาการปวดหลัง ปวดคอ หรือร้าวลงแขนขา อาจมีสาเหตุจากปัญหาเกี่ยวกับหมอนรองกระดูก ซึ่งมักถูกพูดถึงใน 3 ภาวะหลักๆ คือ หมอนรองกระดูกทรุด หมอนรองกระดูกปลิ้น และหมอนรองกระดูกเสื่อม ทั้งสามอาการนี้แม้จะเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกเหมือนกัน แต่มีลักษณะและกลไกที่ต่างกันอย่างมาก มาดูกันว่าข้อแตกต่างเหล่านี้คืออะไร
1. หมอนรองกระดูกทรุด
เป็นภาวะที่หมอนรองกระดูกมีลักษณะคล้ายเจลที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ เพื่อรองรับแรงกระแทก เมื่อหมอนรองกระดูก "ทรุด" คือเกิดการแบนหรือยุบตัวลง ทำให้ช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลังแคบลง และอาจทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาท
สาเหตุหลัก: การใช้งานหลังหนักเป็นเวลานาน อายุที่มากขึ้น และ หมอนรองกระดูกเสื่อมลงจนยุบตัว
อาการ:
2. หมอนรองกระดูกปลิ้น
เกิดจากการที่หมอนรองกระดูกแตกหรือปลิ้นออกมาจากตำแหน่งเดิม แล้วกดทับเส้นประสาทข้างเคียง โดยเฉพาะบริเวณเอวและคอ มักเกิดเฉียบพลัน มีอาการรุนแรงและสัมพันธ์ชัดเจนกับท่าทางหรือเหตุการณ์ เช่น ยกของหรือสะดุดล้ม
สาเหตุหลัก: การยกของหนักผิดท่า อุบัติเหตุหรือการกระแทกแรง หรือ นั่งทำงานท่าเดิมนาน ๆ โดยไม่มีการพัก
อาการ:
3. หมอนรองกระดูกเสื่อม
เป็นกระบวนการเสื่อมตามธรรมชาติของหมอนรองกระดูก โดยเนื้อเยื่อเจลในหมอนรองเริ่มแห้งและสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้รับแรงกระแทกได้ไม่ดีเหมือนเดิม ถึงจะเป็นอาการเรื้อรัง ไม่เฉียบพลัน อาจไม่ร้ายแรงในระยะแรก แต่หากไม่ดูแลจะพัฒนาไปสู่ภาวะหมอนรองทรุดหรือปลิ้นได้
สาเหตุหลัก: อายุที่เพิ่มขึ้น (พบมากในคนวัยกลางคนถึงผู้สูงอายุ) และ พฤติกรรมที่ใช้หลังอย่างไม่เหมาะสมสะสมเรื้อรัง
อาการ:
รู้เท่าทัน ดูแลก่อนสาย
หากคุณเริ่มมีอาการปวดหลัง ปวดคอ หรือปวดร้าวไปยังแขนขา อย่าชะล่าใจ เพราะการตรวจวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ เมื่อมีอาการปวดจากสาเหตุหมอนรองกระดูกเหล่านี้ สามารถปรึกษาแพทย์แผนจีน ช่วยแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับอาการของคุณที่สุด อาทิ ฝังเข็ม กระตุ้นไฟฟ้า ครอบแก้ว และ นวดปวดโครงสร้าง เพื่อช่วยบรรเทาอาการและฟื้นฟูไม่ให้เป็นมากขึ้นกว่าเดิมได้